Grammar: 5 ข้อ (ภาค 2)
มาอีกแล้ว! มาปัดฝุ่นแกรมม่ากันหน่อย
ทำ 5 ข้อนี้ไปพร้อมกัน
อย่างน้อยวันนี้ก็ต้องได้วิธีใช้ศัพท์ไปอย่างน้อย 5 คำ หรือใครอยากจำไปมากกว่านั้นก็ได้นะคะ
ถ้าไม่กลัวเมมเต็ม
1. ( in a
store ) No __________________ before 9 A.M. ณ ห้างแห่งหนึ่ง
(ห้าม ... ก่อน 9 โมงเช้า)
A. admonition
B. admission
C. admittance
D. addition
ข้อนี้เขาต้องห้ามทำอะไรสักอย่างก่อนเก้าโมง
ตัดตัวเลือก d ออกได้เลย เพราะแปลว่าเพิ่มเติมซึ่งความหมายไม่ใช่แน่นอน
ทีนี้เรามาพิจารณาตัวเลือกที่เหลือกัน
admonition = a warning
to somebody about their behavior (การตักเตือน)
จะห้ามตักเตือนก่อนเก้าโมงก็ไม่เข้าท่า นี่มันในห้างนะไม่ใช่ห้องฝ่ายปกครอง
admission = the act of
accepting somebody into an institution, organization, etc. (การรับเข้าสถาบัน เข้าองค์กร) ห้ามเข้าห้างก่อนเก้าโมง อืมม
มีแววถูกอยู่บ้าง แต่ว่า admission
มันเหมือนจะไว้ใช้กับเข้าโรงเรียนมากกว่าเข้าห้างนะ
admittance = the
right to enter or the act of entering a building, an institution, etc. (การอนุญาตให้เข้าอาคาร เข้าสถาบัน) เอาอันนี้แหละ
ห้ามเข้าห้างก่อนเก้าโมง ตอบ c admittance
2. My
__________________ was endorsed by the council. (... ของฉันได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการ)
A. advice
B. advise
C. advisement
D. advisory
ดูจากหน้าตาแล้วคำศัพท์ที่นำมาให้เลือกทั้งหมดน่าจะมาจากรากศัพท์เดียวกัน
ความหมายก็น่าจะคล้ายกันด้วย แต่เราต้องหาเวอร์ชันที่ถูกต้องสำหรับประโยคนี้ เห็นคำว่า My ... ไหม
แสดงว่าในช่องว่างต้องเป็นคำนาม จึงเหลือเพียง 2 ตัวเลือก คือ a กับ c แต่ระวังโดน
advisory จากข้อ d หลอกเอา เพราะคำนี้เป็น adjective ที่ลงท้ายด้วย y
เลยหน้าตาเหมือน noun
advice (noun)
= an opinion or a suggestion about what somebody should do in a particular
situation (คำแนะนำ)
advise (verb) = to tell
somebody what you think they should do in a particular situation (ให้คำแนะนำ)
advisement (noun) = careful
deliberation or consideration (การพิจารณาอย่างละเอียด)
advisory (adjective) = having
the role of giving professional advice (ที่เกี่ยวกับการให้คำปรึกษา) เป็นภาษาโบราณ
เชยๆ
ข้อนี้จึงควรเป็น My
advice ซึ่งก็คือ คำแนะนำของฉันได้รับการสนับสนุน ตอบ a advice
3. Many of our welfare
programs _______________ people's lives positively. (โครงการสวัสดิการของเราหลายโครงการ ... กับชีวิตของผู้คนในด้านบวก)
A. effect
B. affect
C. defect
D. suspect
ดูที่ตัวเลือกเห็นอะไรเฟคๆ
หลายอัน เดาได้เลยว่าคำในช่องว่างต้องเป็น affect (verb) ที่แปลว่าส่งผลกระทบอย่างแน่นอน
แต่ระวังกาผิดนะ ห้ามเลือก effect
(ผลกระทบ) เด็ดขาด เพราะ effect เป็นคำนาม ในที่นี้เราขาด
verb ตอบ b affect
4. His poor health was ___________________
by his drinking. (สุขภาพที่ย่ำแย่อยู่แล้วของเขาถูก
... ด้วยการดื่มเหล้า)
A. aggravated
B. irritated
C. annoyed
D. angred
เหล้าต้องไปทำให้สุขภาพเขาแย่ลงอีก
และข่าวร้ายคือทุกข้อมีความหมายเชิงนี้หมดเลย และทุกข้อก็ใช้ passive voice เหมือนกันหมด
ค่อยๆ คิดทีละคำ
aggravate = to make an
illness or a bad or unpleasant situation worse (ทำให้แย่ลง ใช้กับอาการเจ็บป่วยหรือสถานการณ์ไม่พึงประสงค์)
น่าจะใช่
irritate = to make your
skin or a part of your body sore or painful (ระคายเคือง ใช้กับผิวหนังหรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย)
ข้อนี้ไม่ใช่ผิว แต่เป็นสุขภาพโดยรวม ดังนั้นตัดตัวเลือกนี้ทิ้ง
annoy = to make
somebody slightly angry or uncomfortable (ทำให้โกรธ
หรืออึดอัดใจ) ตัดทิ้งได้เลย ไม่ใช่แน่นอน
angred น่าจะสะกดผิด ควรจะมาจาก angered ที่แปลว่าทำให้โกรธ
อันนี้ก็ไม่ใช่แน่ๆ สรุปข้อนี้ ตอบ a aggravated
5. Breakfast was
___________________ by 7 A.M. (อาหารเช้า ... ก่อน 7 โมงเช้า)
A. already
B. allready
C. all
ready
D. al
ready
อาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟก่อน
7 โมง
already (adverb) เรียบร้อยแล้ว
allready และ al
ready ไม่มีอยู่ในดิกฯ
all ready = completely
prepared เป็นวลีที่แปลว่าถูกเตรียมพร้อม
พร้อมแล้ว และ ready เป็น adjective
ที่ใช้กับ v. to be
ซึ่งลงตัวพอดีกับข้อนี้ ตอบ c Breakfast was ready by 7 am.
วิธีดูข้อสอบแบบนี้ เราต้องมองให้ออกว่าคำในช่องว่างควรอยู่ในรูปแบบไหน
จะเป็น noun, verb, adverb, adjectlve หรืออะไรก็ตาม โดยดูจากคำแวดล้อมอื่นในประโยคว่ามีอะไรบ้างและขาดอะไร
รูปประโยคส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้น ประธาน + กริยา + กรรม นั่นเอง
0 comments:
Post a Comment